Greeting

ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์
นายกแพทยสภา

สวัสดีคุณหมอทุก ๆ คนนะคะ ในนามของแพทยสภา ขอต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่แพทยสภาด้วยความยินดี เสียดายที่ปีนี้เราไม่มีโอกาสได้พบกันตัวต่อตัวเหมือนทุก ๆ ปีนะคะ เนื่องจาก โควิด – 19 กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติมาก เพราะฉะนั้นต้องขอบอกคุณหมอทุกคนนะคะ ว่าโปรดระวังตัวด้วย ดูแลคนไข้ด้วยความระมัดระวัง และขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและอาชีพ และมีสุขภาพแข็งแรง ต่อสู้โรคภัยต่าง ๆ ได้ดี คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้คิดในสิ่งที่ดี และทำดีต่อไป ขอให้ทุกคนประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้อย่างปลอดภัยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะปลอดภัยจากโรคที่กำลังระบาดอยู่ทุกวันนี้ ขอให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ปฏิบัติหน้าที่ สมกับเป็นสมาชิกของแพทยสภา

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของแพทยสภาทุกท่าน นึกย้อนหลังไปกว่า 6 ปีที่แล้ว ตอนที่ทุกคนตั้งเป้าหมายในชีวิตจะเข้ามาแวดวงของแพทยศาสตร์ศึกษา มุ่งมั่น ทุมเท จนประสบความสำเร็จจบแพทยศาสตร์ศึกษา และจากนี้เป็นต้นไป จะเข้าสู่ช่วงของการใช้ชีวิตที่แท้จริง ชีวิตที่พวกเราทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตคนที่เข้ามาฝากชีวิตไว้กับเรา ชีวิตของคนที่เขาเอา ญาติ ผู้ป่วยต่าง ๆ เข้ามาให้เราช่วยกันรักษาให้เขาหาย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมอยากจะฝากให้กับสมาชิกใหม่ทุกท่าน 3 ศ. ขอให้ติดตัวเราไปตลอดเวลา

ศ.1 คือศาสตร์ หมั่นศึกษาค้นคว้า มีโรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนสมัยเราเรียนแพทย์ มันจเกิดขึ้นตลอดเวลา

ศ. 2 คือ ศิลปะ ต้องมีศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสาร สื่อสารกับผู้ร่วมงาน สื่อสารกับผู้ป่วย สื่อสารกับญาติ เพราะองค์ประกอบของความสำเร็จในการดูลสุขภาพของเขาต้องประกอบทั้ง 3 องค์ประกอบไม่ใช่เฉพาะตัวแพทย์เท่านั้น กับผู้ร่วมงานของเราก็ดี ผู้ป่วยและญาติก็ดี

ศ.3 ตัวสุดท้าย ที่หยุดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว คือ ศีลธรรม มีศีลธรรมประจำใจ เพราะวิชาชีพนี้ เป็นวิชาชีพที่จะประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีศีลธรรมอยู่ประกอบตลอดเวลา

ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเป็นแพทย์ที่ดี ขอให้ทุกท่านนึกถึงพระราชดำรัสของสมเด็จพระบรมราชชนก ไม่ได้อยากให้เป็นหมอเท่านั้นนะ แต่อยากให้เป็นคนด้วย ขอต้อนรับสู่ แพทยสภา สวัสดีครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 2

สวัสดีครับ น้อง ๆ แพทย์จบใหม่ทุกท่านนะครับ ก่อนอื่นผมก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านนะครับ ที่ได้เรียนจบแพทยศาสตรบัณฑิต และก็สอบผ่านใบประกอบโรคศิลป์ เข้ามาเป็นผู้ร่วมวิชาชีพกับพวกเรานะครับ ก็แสดงความยินดีจริง ๆ และก็อยากจะให้ข้อคิดบางอย่างนะครับ ว่าตอนนี้เรากำลังเริ่มบทบาทใหม่นะครับ จะเห็นว่าสังคมมีการเลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะวิชาชีพด้านสุขภาพนะครับ ผมคิดว่าขณะนี้ปัจจัยสำคัญที่สุด ซึ่งน่าจะเป็น Key success ของวิชาชีพเราก็คือ ความสามารถในการปรับตัวนะครับ ผมเข้าใจว่าน้อง ๆ ทุกคน มีความรู้ที่ผ่านเกณฑ์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรารู้มาเท่าไหร่ ผมคิดว่ามันไม่สำคัญเท่ากับความสามารถในการจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในอนาคตอันใกล้ที่จะเกิดขึ้นนะครับ ดังนั้นก็ฝากน้อง ๆ ว่า เราต้องเรียนรู้นะครับ จากผู้ป่วย จากสิ่งรอบตัว ไม่ใช่เฉพาะในวิชาชีพแพทย์อย่างเดียวนะครับ ในแง่ของสังคม การวางตัว กฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในวิชาชีพแพทย์ครับ ก็ขอฝากตรงนี้ไว้นะครับ แล้วก็หวังว่าทุกท่านจะประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ ขอบคุณครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ
เลขาธิการแพทยสภา

ยินดีต้อนรับคุณหมอใหม่ทุกท่านครับ นับจากนี้ไปน้อง ๆ จะไม่ใช่นักเรียนอีกต่อไปแล้วครับ น้องจะเป็นคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งเป็นความหวังของประชาชนที่จะได้รับการดูแลรักษา โดยที่น้องหลายคนจะเข้าไปอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยครับ 6 ปีผ่านมาเป็นเวลาแป๊บเดียวนะครับ วันนี้จากนักเรียนกลายเป็นคุณหมอเต็มตัวแล้ว แพทยสภาจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ จากนี้เป็นต้นไปตลอดการประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือการเป็นแพทย์ของน้องนะครับ สุดท้ายต้องเรียนว่าชีวิตหมอที่ดีต้องมีแผนการชีวิตนะครับ น้องต้องวางแผนชีวิตว่าในอีก 3 ปี 5 ปี 10 ปี หรือจนถึงเกษียณน้องจะอยู่ที่ไหนอย่างไร มีความสุขในครอบครัวอย่างไร มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมอย่างไร เกียรติยศ ชื่อเสียง รวมถึงความรู้ด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น้องต้องวางแผนนับแต่วันแรกที่น้องก้าวออกจากโรงเรียนแพทย์ครับ ชีวิตน้องจากนี้จะเปลี่ยนไปไม่ใช่นักเรียนอีกแล้วครับ แต่เป็นหมอท่านหนึ่งซึ่งมีภาระในการรับผิดชอบชีวิตคน และน้องเป็นผู้ที่โชคดีที่จะได้ทำบุญตลอดชีวิตในการรักษาและช่วยคนให้พ้นจากความทุกข์ด้วยโรคภัยต่าง ๆ ครับ ขอให้น้องประสบความสำเร็จทุกคน ในการเป็นแพทย์ที่ดี และแพทยสภาจะเป็นหลักในการช่วยเหลือน้องดูแลน้องตลอดการเป็นแพทย์ครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์
รองเลขาธิการแพทยสภา

สิ่งที่มีความสำคัญที่อยากจะเตือนพวกเราในฐานะที่เป็นแพทย์ที่กำลังจะออไปปฏิบัติงานในฐานะที่เป็นแพทย์เวชปฏิบัติ สิ่งสำคัญก็คือ พวกเราต้องมีความระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง ผมคิดว่ามีหมอหลายคนที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวข้องของการระมัดระวังตัวในเรื่องของภัยเกี่ยวกับเชื้อโรคโดยเฉพาะในยุคโควิด จะไม่พูดถึงในตอนนี้ แต่สิ่งที่จะพูดถึงเรื่องทั่วๆ ไป ก็คือ แพทย์เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ยินดีต้อนรับพวกเราในฐานะที่เป็นแพทย์ใช้ทุนปีที่ 1 ซึ่งจะออกไปปฏิบัติงาน ป้องกันตัวเองแล้วยังต้องป้องกันตัวเองในฐานะที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนั้นมีหลายเรื่องครับ เนื่องจากกฎหมายเรามีหลายฉบับ มีหลายมาตรา มีหลายประเภท แต่ผมจะขอให้พวกเราระมัดระวังตัวในสิ่งต่อไปนี้

  1. เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญา อาญาคือโทษ ที่มีโทษค่อนข้างหนักนะครับ โทษจำคุกซึ่งแพทย์เราก็เคยถูกคำพิพากษาให้จำคุกไปแล้ว
  2. คือโทษทางแพ่ง แพทย์เราอาจจะถูกฟ้องที่เกี่ยวกับเรียกเงิน เรียกทอง เรียกค่าเสียหายต่าง ๆ
  3. เกี่ยวข้องกับจริยธรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับแพทยสภาโดยตรง ตรงนี้สำคัญครับ เพราะถ้าหมอเราทุกคนกระทำผิด หรือกระทำไม่ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะในขณะนี้เราใช้เกณฑ์ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 11 หมวด 62 ข้อ ซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วง เพราะพวกเราอาจจะยังไม่เคยรู้ไม่เข้าใจ ขอให้พวกเราช่วยกันศึกษาในเกณฑ์ทั้งหมดนี้
  4. พวกเราต้องออกไปปฏิบัติงานในฐานะที่เป็นผู้แทนของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของทหาร โรงพยาบาลของกทม. หรือโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรืออื่น ๆ ซึ่งพวกเราก็เป็นในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสิ้น ซึ่งตรงนี้นั่นเองต้องมีวินัยต้องมีกฎเกณฑ์อยู่ต้องพึงระวังด้วย
  5. สุดท้ายก็คือเกี่ยวข้องกับเรื่องของการปกครองนะครับ เราอาจจะต้องมีการกระทำการบางสิ่งบางอย่างซึ่งอาจจะทำให้คนไข้ไม่พอใจ เช่น กรณีที่เราออกคำสั่ง หรือคนไข้มาขอเวชระเบียน คนไข้มาขอใบรับรองแพทย์ แต่เราปฏิเสธไม่ยอมให้ออก เราอาจจะถูกฟ้องในฐานะที่ฟ้องทางปกครองก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ผมอยากเน้นในช่วงหนึ่งช่วงท้ายนี้ครับ เน้นในจุดเดียวเท่านั้นเองคือเรื่องความยินยอมขอคนไข้ เราต้องให้ความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2560 มีมาตรา 28 มีความสำคัญยิ่งเพราะว่าผู้ป่วยถือเป็นบุคคลหนึ่งเขามีสิทธิหน้าที่ การที่เราจะทำอะไรกับคนไข้นั้นอย่าลืม ต้องขอความยินยอมจากคนไข้เสียก่อน
ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์
เหรัญญิกแพทยสภา

สวัสดีน้อง ๆ แพทย์ใหม่ที่รักทุกท่าน แพทยสภาขอต้อนรับน้องเข้ามาสู่การดูแลผู้ป่วย อยากจะเรียนว่าปีนี้เป็นปีที่ น้องแพทย์ใหม่ทุกคนต้องระวังตัวให้มาก การจบมาครั้งนี้จบมาเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ ในภาวะที่แพทย์มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลคนไข้เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ คนไข้ที่อาจจะมีโรค COVID-19 ขอให้น้องทุกคนตั้งใจ และมีมาตรการป้องกันเชื้อโรคอย่างเข้มงวด เพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่เราก็มีหน้าที่ที่ต้องช่วยเรื่องผู้อื่น ขอให้น้องทุกคนทำงาน เสียสละ มีความสุข และปลอดภัยจาก COVID-19 ด้วยครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

นพ.พินิจ หิรัญโชติ
อนุกรรมการบริหารแพทยสภา

ผมอยากจะเรียนให้น้อง ๆ ทุกคนได้รับทราบว่า ขณะนี้ท่านเป็นแพทย์ เป็นผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งในการรักษาพยาบาลนั้น เราได้กระทำต่อชีวิตและร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญานั้นถือว่าเป็นความผิด แต่เราได้รับการยกเว้นตาม พรบ.วิชาชีพเวชกรรม เพราะเรากระทำต่อมนุษย์เพื่อการรักษา แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ น้อง ๆ ทุกคนต้องเข้าใจว่าการรักษานั้น เรามีมาตรฐานในการรักษาที่จะให้เราพ้นโทษจากความรับผิดทางอาญา อยากจะเรียนน้องทุกคนว่า การกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อคนไข้นั้น จะมี 5 เรื่องด้วยกัน ที่อาจจะมีความผิดได้ คือ 1.การกระทำที่ไม่ได้มาตรฐาน 2.การมีพฤติกรรมที่ประชาชนไม่สามารถรับได้ในการแสดงท่าทางทางกายและวาจา ดังนั้น คดีความที่จะเกิดกับน้องนั้นจะมี 5 เรื่องด้วยกันเรื่องที่ 1 คือ การผิดจริยธรรม เรื่องที่ 2 คือ การผิดต่อคดีอาญา เรื่องที่ 3 คือ ความผิดต่อคดีแพทย์ เรื่องที่ 4 คือ เรื่องที่คนไข้มีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็คือเกี่ยวข้องกับ สปสช. เรื่องที่ 5 คือ วินัยทางราชการ

ผมจึงอยากจะเรียนให้น้องทุกท่านได้ทราบว่า ในการกระทำอะไรต่อใครนั้นจงตั้งสติ ให้มีคำว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือเป็นผู้มีพรหมวิหาร 4 และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเตือนน้อง ๆ ทุกคนที่มีใบประกอบวิชาชีพ จะมีคนมาชักชวนเราไปทำมาหากินโดยการเปิดสถานพยาบาลให้เราเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล จงระวังให้มาก เพราะกฎหมายไม่ว่าของแพทยสภาเรื่องจริยธรรม และกฎหมายสถานพยาบาลได้กำหนดโทษทั้งแพ่งและอาญาไว้ ท่านต้องไปดูแลคลินิกอย่างใกล้ชิด อย่าเอาแต่ชื่อท่านไปแขวนในคลินิกต่างๆ อันต่อมาก็คือ เจ้าของคลินิกจะชวนท่านไปที่สำนักงานอาหารและยาเพื่อจะขอใบอนุญาตเป็นผู้จำหน่ายยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท2 ประเภท3 ประเภท4 ท่าไปอ่านในหนังสือ สำคัญสุดก็คือยาลดความอ้วน ซึ่งตอนนี้มีการจับเป็นเครือข่าย เรื่องต่อไปคือเรื่องชันสูตรพลิกศพ ในการชันสูตรพลิกศพนั้น ท่านจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยต้องตรวจร่างกายคนไข้ทั้งระบบ ตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า อย่าไปเขียนโดยที่ท่านไม่ได้ตรวจ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

ศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์
อนุกรรมการบริหารแพทยสภา

ขอแสดงความยินดีกับน้องแพทย์ทุกท่าน ที่ได้จบการศึกษาและมาเป็นสมาชิกของแพทยสภา การเป็นแพทย์เป็นโอกาสที่ดีในหลาย ๆ เรื่องนะคะ เป็นโอกาสที่ทำให้เรามีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสที่เราจะได้รับการยอมรับในสังคม และที่สำคัญเป็นโอกาสที่เราจะได้ทำความดีต่อเนื่องตลอดเวลาในกิจกรรมทุกๆ วันของเราที่ได้ดูแลคนไข้นะคะ วันนี้ก็อยากจะฝากไว้ 3 เรื่อง ก็คือ Knowledge Attitude และ Skills ซึ่งเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นทักษะ เป็นสิ่งที่แพทย์เราควรจะมี ในเรื่องของความรู้น้อง ๆ ทุกท่านเรียนจบแล้วก็ต้องมีความรู้ แต่ความรู้ของเราไม่ได้จบในวันนี้ เราต้องมีการ Update ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะความรู้ทางการแพทย์ไม่ได้จบแค่วันเดียว การเรียนรู้ต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา อยากให้น้อง ๆ ทุกคนพยายามค้นคว้าหาความรู้ ซึ่งปัจจุบันนั้นง่ายนิดเดียวเพียงปลายนิ้วของเราก็หาความรู้ได้แล้ว แต่ความน่าเชื่อถือในความรู้ที่เราจะได้มานั้นอาจจะต้องมีวิจารณญาณในการไตร่ตรองนะคะ แพทยสภาเราก็มีเว็บไซต์สามารถดูข่าวสารและความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เรื่องที่ 2 คือเรื่อง Attitude หรือว่าทัศนคติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว เราเป็นแพทย์เรามี Attitude ในการรักษาคนไข้ แต่ย้ำอีกทีนะคะว่า คนไข้กับเราเป็นทีมเดียวกันในการต่อสู้กับโรค เราคงไม่มองว่าคนไข้มาทำให้เราเดือดร้อนทำให้เป็นปัญหากับเรา เพราะฉะนั้น Attitude ในการดูแลคนไข้ก็จะเป็นอะไรที่สำคัญ ทำให้เราดูแลคนไข้ได้อย่างดี มีความสัมพันธ์ที่ดี และในที่สุดนำมาซึ่งการรักษาโรค ซึ่งโรคอาจจะหาย หรืออาจจะไม่หาย แต่Attitudeในการดูแลคนไข้จะเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เราดูแลเขาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ เรื่องที่ 3 ที่อยากจะฝากไว้ก็คือเรื่อง Skills เราจะนึกถึงว่า Skills ก็คือเรื่องของการทำหัตถการต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนเราต้องฝึกฝนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม Skills พื้นฐานที่อยากจะพูดถึงก็คือ เรื่องของการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และ Skills ในการสื่อสาร Communication Skills ประวัติที่ถูกต้องการตรวจร่างกายที่แม่นยำยังเป็นประโยชน์ในการเลือกการวินิจฉัยในการรักษาของเรา ปัจจุบันเรามีเครื่องหุ่นยนต์ AI หลายอย่างที่มาช่วยในการวินิจฉัยและรักษา แต่ถ้าปราศจากการตรวจร่างกายที่ถูกต้อง นำข้อมูลไปใส่อาจจะทำให้เราหลงทางหรือว่าอาจจะให้การรักษาที่ไม่ถูกต้องได้นะคะ อีกอันก็คือเรื่องของ Communication Skills การสื่อสารกับคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเลย เพราะการรักษาที่จะได้ผล ขึ้นอยู่กับความไว้ใจความเชื่อใจระหว่างแพทย์กับคนไข้ ถ้าเรามีการสื่อสารที่ดีก็จะทำให้เขาและเราเข้าใจกันได้มากขึ้น โอกาสที่จะเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็จะน้อยลง ดังนั้นการสื่อสารเป็นอันที่อยากจะฝากไว้นะคะ อันนี้อาจจะต้องใช้การฝึกฝนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะที่เราเป็นแพทย์ต่อไป สุดท้ายนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านอีกครั้ง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้มีโรคระบาด ซึ่งเราต้องเผชิญด้วยกัน ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนต่อสู้ สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยกำลังใจ ด้วยความปรารถนาที่ดีต่อคนไข้ และขอให้ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

รศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ
ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

ขอต้อนรับน้องเข้าสู่วิชาชีพและการเป็นสมาชิกแพทยสภาโดยสมบูรณ์ นับเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งในอาชีพแพทย์ที่จะไปช่วยเหลือผู้ป่วย ซึ่งเป็นยุคใหม่ New normal ของแพทย์ที่เป็นการเรียนการสอนปรับปรุงตารางเรียนเปลี่ยนไปตลอด เนื่องจากมีสถานการณ์พิเศษ (COVID-19) มีโรคระบาดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อย่างไรก็ขออวยพรให้น้อง ๆ ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน ในฐานะของผม ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ขอให้ความมั่นใจกับน้อง ๆ ว่า จะพยายามทำงานทุกอย่างภายใต้ความรับผิดชอบตามหน้าที่ เพื่อช่วยดูแลสวัสดิภาพในการทำงานของแพทย์ โดยส่วนตัวผมก็ผลักดันผ่านท่านเลขาธิการแพทยสภา ท่านนายกแพทยสภา และความเมตตาจากกรรมการทุกๆคนของแพทยสภา ในการออกประกาศหลายอย่างเพื่อช่วยการทำงานของหมอที่จบใหม่ ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าเรามาอยู่ในสังคมใหม่เช่นเดียวกัน เป็นยุค New normal ผู้ป่วยหลายท่านเรียกร้องสิทธิ์ เราก็พยายามผลักดันเรื่องให้มีการรับผิดชอบมีหน้าที่ของผู้ป่วยเกิดขึ้น ผู้ป่วยหลายท่านเรียกร้องสิทธิ์ เรื่องของการเยียวยา เราก็พยายามให้ความรู้กับผู้ป่วย พยายามประสานงานกับฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะวิชาชีพอื่น ซึ่งเขามีผลต่อการประกอบวิชาชีพของเรา อาทิ ท่านอัยการ ท่านตำรวจ ทางผู้พิพากษา และทางศาล ในการให้ความรู้ว่าชีวิตการทำงานของหมอมีข้อจำกัดหลายอย่างมาก ซึ่งเราก็พยายามทำเต็มที่ ในฐานะที่เราเป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่ต้องยอมรับว่าเรามีข้อกำจัดตามกฎหมาย บทบาทบางอย่างเราทำได้ บางอย่างเราทำไม่ได้ สิ่งที่น้อง ๆ เรียกร้องกัน ไม่ว่าจะผ่านทางครูอาจารย์ ทางสื่อโซเชียล เช่น Twitter Facebook หรือแม้กระทั่ง Club house ในยุคใหม่ เรารับฟังทุกอย่าง อะไรที่มีประโยชน์ขอยืนยันว่าจะนำไปปรับปรุง และผสานการทำงานเพื่อให้ออกมาเป็นรูปธรรม ท้ายที่สุดนี้ผมก็ขอแสดงความยินดี และต้องรับน้อง ๆ ในฐานะสมาชิกแพทยสภา ประจำปี 2564 ขอบพระคุณครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

ผศ.นพ.ต่อพล วัฒนา
ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

ขอแสดงความยินดีกับแพทย์จบใหม่ทุกท่าน ที่สามารถสอบผ่านได้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของแพทยสภา เมื่อท่านจบใหม่เดือนหน้าก็ต้องไปทำงานแล้ว สิ่งแรกที่อยากจะให้พิจารณาก็คือ เมื่อท่านไปอยู่โรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลหรือที่ต่างถิ่น อยากให้ท่านปรึกษารุ่นพี่แพทย์ เพราะรุ่นพี่จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อท่านได้นะครับ ซึ่งเรื่องบางเรื่องไม่ได้อยู่ในตำราอย่างเดียว ต้องอาศัยประสบการณ์ เรื่องต่อไปที่อยากจะฝากคือเรื่องการศึกษาต่อเนื่อง เนื่องจากอาชีพแพทย์นั้นการศึกษา วิทยาการมีการเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ อยากจะให้แพทย์จบใหม่ทุกท่านติดตามองค์ความรู้ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันสามารถศึกษาทางออนไลน์ก็ได้ และเรื่องสุดท้ายในขณะที่ท่านต้องปฏิบัติงานแพทย์ใช้ทุน อยากให้ท่านมองถึงอนาคตด้วย เผื่อบางท่านวางแผนเป็นแค่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในอนาคต อยากให้ท่านศึกษาหาลู่ทาง หาความรู้ฝึกทำงานต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์และสามารถทำให้ท่านมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการสมัครเข้าเป็นแพทย์ประจำบ้านครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

น.ท. นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์
ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

สวัสดีนะครับ น้อง ๆ หมอที่รักทุกท่านนะครับ ก็ยินดีด้วยในความสำเร็จนะครับ สำหรับบัณฑิตใหม่ สำหรับแพทย์ใหม่ที่จะมาเป็นสมาชิกของแพทยสภาในปีนี้นะครับ ในปีนี้ก็เป็นปีที่หนักหน่วงนะครับ หนักหน่วงในระยะสามแล้วก็ไม่รู้จะยืดเยื้อไปอีกเมื่อไหร่ อาจจะ 3 เดือน 4 เดือน 5 เดือน 6 เดือน ถึงมีเวฟต่อไปก็ขอให้พวกเราอดทนนะครับ เราได้ปฏิญาณที่จะมาเป็นแพทย์ช่วยเหลือพ่อแม่ พี่น้อง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้ว ขอให้ทำหน้าที่ที่ดีสุดนะครับ ก็ทุก ๆ หยาดเหงื่อของน้อง ๆ ก็จะเป็นประสบการณ์เพื่อที่จะเป็นฐานและก็เป็นกำลังต่อไปในอนาคตนะครับ พี่ ๆ ทั้งหลายก็ยินดีดูแลน้อง ๆ มีอะไรก็ติดต่อมานะครับ ก็จะช่วยเหลือกัน แล้วก็สถานการณ์ตอนนี้ในกรุงเทพ ก็ดูจะหนักหน่วงกว่าต่างจังหวัดนะครับ แต่ว่าน้อง ๆ ที่ไปอยู่จังหวัดใหญ่ ๆ ก็คงมีสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างจากในกรุงเทพนะครับ ก็รักษาตัวนะครับ ส่วนใหญ่การติดเชื้อก็ที่เห็นอยู่นะครับ ในโรงพยาบาลเราก็ติดภายใน น้อยกว่าไปติดจาก Community นะครับ เพราะฉะนั้นหลังจากการทำงานหนักเราก็ต้องรักษาตัว Safe ตัวเองไว้ด้วยนะครับ เพราะว่ามีคนอื่น ๆ หลายคนที่รอการช่วยเหลือจากพวกเราอยู่ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

พ.อ.นพ.อดิสรณ์ ลำเพาพงศ์
ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

ยินดีด้วยกับน้อง ๆ ทุก ๆ ท่านนะครับ ซึ่งเขามาเป็นสมาชิกใหม่ของแพทยสภา ตอนนี้ก็ถือว่าเราอยู่ในครอบครัวเดียวกัน สิ่งที่จะฝากกับน้อง ๆ ไว้ก็คือ อันแรกก็คือ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขครับ ก็คือใช้ชีวิตของความเป็นแพทย์ ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วย ในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก หรือในอาการที่เราไม่สามารถจะดูแลได้ ก็ต้องเตรียมในเรื่องของการส่งตัวหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะครับ กับอีกเรื่องนึงนะครับ ก็คือ work life balance นะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องดูก็คือเรื่องของการทำงานครับ หาเวลาที่จะพักผ่อน ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพของตัวเอง ตลอดจนคนที่รักในครอบครัว ของพวกเราครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่

นายแพทย์ภาสกร วันชัยจิระบุญ
ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา

ครับ ก็สวัสดีนะครับ น้อง ๆ All new intern ปี 2564 นะครับ ก็ยินดีต้อนรับเข้าสู่การปฏิบัติงานเป็นแพทย์อย่างเต็มตัวนะครับ ให้สมกับที่น้องรอคอยนะครับ แล้วก็ตั้งใจมาตั้งแต่มาเข้าคณะแพทย์ ไม่ว่าจะสถาบันไหนก็ตามนะครับ ในช่วง 2 ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ยากลำบากนิดนึงในการทำงานนะครับ เพราะว่าเราก็อย่างที่เราทราบนะครับ เพราะว่าเราก็ประสบเหตุเรื่องของวิกฤติการณ์โคโรนาไวรัส 2019 นะครับ ก็จะบอกน้อง ๆ ว่าในฐานะของแพทยสภานะครับ เราก็มีหน้าที่ดูแลประชาชนกับการดูแลแพทย์นะครับ ดังนั้นในเรื่องของการดูแลน้อง ๆ เกี่ยวกับเรื่องของการปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยในเรื่องสถานการณ์เหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญนะครับ พี่ก็จะบอกว่าในการดูแลของแพทย์เพิ่มพูนทักษะและช่วงระหว่างน้องใช้ทุนนะครับ หรือว่าตลอดการเป็นแพทย์ แพทยสภาจะเป็นตัวแทนของน้อง ๆ นะครับ ดังนั้นถ้าเกิดว่า น้อง ๆ หรือคุณหมอคนไหนนะครับ ที่มีเรื่องที่อยากจะให้ช่วยเหลือ หรือว่ามีเรื่องที่ร้องเรียนอะไรเข้ามาในแพทยสภานะครับ พี่ก็ยินดีที่จะช่วยนำเรื่องเหล่านี้ขึ้นไปสู่การพิจารณา หรือว่าก็ไปปรึกษากับคนที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ทำให้เราปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ได้อย่างปลอดภัยนะครับ

อันที่สองนะครับ ก็อยากจะบอกว่าหลังจากที่น้องออกไปใช้ทุนแล้วนะครับ ก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเรานะครับ ไม่ว่าจากที่เราเคยเป็นนิสิต นักศึกษา เราเคยต้องเดินตามอาจารย์ เป็นหัวหน้าทีมบ้างตอนเป็น extern นะครับ แต่ว่า ณ ตอนนี้น้องก็เป็นคุณหมอที่เต็มตัวแล้วนะครับ ความรับผิดชอบก็จะเยอะขึ้น ก็คงจะเครียดขึ้น นะครับ ก็อยากจะฝากว่านอกจากชีวิตของการทำงานแล้ว ก็ยังมีต้องทำ work life balance work life flow เรื่องอื่นด้วย แต่ balance แต่ละคน ก็อาจจะไม่เหมือนกัน บางคนก็ชอบทำงานเยอะ บางคนก็ชอบแบบกลาง ๆ อะไรอย่างนี้นะครับ ดังนั้นในช่วงที่เราต้องปรับตัวไปอยู่กับเพื่อนใหม่ ในโรงพยาบาลที่เราต้องชดใช้ทุนก็คงจะต้องมีการปรับตัวกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ พี่ก็จะบอกว่าในการทำงานในกับคนใหม่ ถึงแม้เราจะจบมากจากต่างสถาบันกัน มาจากต่างจังหวัดอะไรกันนะครับ จริง ๆ เพื่อนแท้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลานะครับ ก็อยากจะให้น้อง ๆ ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกันนะครับ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เป็นแบบนี้นะครับ ถ้าเกิดว่าตัวโรคมันเครียดอยู่แล้วนะครับ ก็อยากจะให้สถานการณ์การทำงานของเราเต็มไปด้วยไมตรีจิตนะครับ

อันที่สามนะครับ เนื่องจากน้องจบกันมาแต่ละที่แต่ละแห่งไม่เหมือนกันนะครับ ก็อาจจะต้องไปเจอ staff ที่ใหม่ staff ใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ นะครับ เพราะฉะนั้นแนวคิดหลาย ๆ อย่าง อาจจะไม่ตรงกัน พี่ก็จะฝากว่าทุกคนมีดีนะครับ ทุกคนมีดี อย่าดูถูกกัน นะครับ ดังนั้นแปลว่าขอให้น้อง ๆ หาจุดที่ดีของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว นะครับ แล้วก็ปรับ tune ซึ่งกันและกัน นะครับ ทำให้เพื่อนใหม่ ทำให้อาจารย์ใหม่ กลายเป็นเพื่อนสนิท กลายเป็นเพื่อนแท้ ทำให้อาจารย์ใหม่ กลายเป็นคนที่เราสนิทสามารถที่จะปรึกษาได้ตลอดเวลานะครับ ไม่มีอะไรที่เกินเลยจากการแก้ปัญหา โดยที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง นะครับ แล้วก็ยึด Academic เป็นศูนย์กลาง ถ้าหากว่าเรามีอะไรที่คิดไม่ตรงกันในเรื่องของวิชาการเราก็มาถกกัน ทำเป็น slidefik academic conference นะครับ

พี่ตลอดการทำงานของชีวิตพี่ที่เป็นหมอมาตลอด 12-13 ปีนะครับ ก็จะเรียนว่าตอนที่พี่มีความสุขที่สุดช่วงนึงเลย คือช่วงของการเพิ่มพูนทักษะ กับปีที่ 1 และก็ตอนใช้ทุนที่เป็นโรงพยาบาลชุมชน ปีที่ 2 ปีที่ 3 นะครับ ซึ่งเป็นช่วงที่เป็นชีวิตที่มีคุณค่ามาก ณ ปัจจุบันนี้ก็ยัง เพื่อนในกลุ่มนั้นเราก็ยังติดต่อไปมาหาสู่กันตลอดเวลา โรงพยาบาลชุมชนที่พี่ไปใช้ทุน จบกลับมาแล้ว พี่ก็ยังกลับไป เค้าก็ยังยินดีต้อนรับเรา นะครับ

สุดท้ายนี้นะครับ ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนสถานที่การทำงานไปที่ใดก็ตาม พี่ก็อยากให้เราทุกคนนะครับ เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เราจะไปอยู่ที่ไหนก็ขอให้เจริญงอกงาม ทั้งตัวน้องเองก็เจริญงอกงาม สถานที่ ที่เราไปทำงานก็เจริญงอกงาม คนที่ทำงานร่วมกันกับเราก็เจริญงอกงาม นะครับ แล้วก็เมื่อเราจากมาขอให้เขาคิดถึงแต่สิ่งที่ดี ๆ สิ่งที่เราทำให้เขานะครับ เพราะว่าเราก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ เปลี่ยนแปลงที่ทำงานกันตลอดเวลาอยู่แล้วในลักษณะของวิชาชีพของเรา อย่างไรก็ขอให้น้อง ๆ มีความสุขทุกขณะ มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพนะครับ และถ้าเกิดมีอะไรที่อยากให้พี่ช่วยเหลือก็บอกได้นะครับ ก็ขอฝากสั้น ๆ ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ

ดูวีดีโอสารถึงหมอใหม่