แพทยสภาร่วมให้ความรู้ สร้างกำลังใจให้หมอใหม่

            เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๓๐ น.ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี คณะกรรมการบริหารแพทยสภา วาระ ๒๕๕๖-๒๕๕๘ นำโดย ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภาอาวุโส, นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา, น.อ.(พ) นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา และนพ.วิสุทธิ์ ลัจฉเสวี ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา เข้าร่วมให้ความรู้แก่แพทย์จบใหม่ ประจำปี ๒๕๕๖ ภายในงาน “การอบรมปฐมนิเทศ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ผู้ให้สัญญาฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี ๒๕๕๖”

            โดยแพทยสภาได้แนะนำพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.๒๕๒๕ ให้แพทย์จบใหม่ศึกษาและนำไปปฏิบัติ เพื่อการประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้อย่างมีคุณภาพมาตรฐานและได้ฝากถึงพระโอวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมราชชนก (พระบิดา) ที่ว่า ”ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นหมอเท่านั้น แต่ฉันต้องการให้เธอเป็นมนุษย์ด้วย”  เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงคุณธรรม จริยธรรมที่แพทย์รุ่นใหม่ควรรักษาสิ่งดีไว้ และเรื่องสำคัญสำหรับแพทย์รุ่นใหม่ในยุค Generation –Y นั้น การทำงานเลี้ยงชีพ ไม่ให้หวังว่าทำเพื่อความร่ำรวย แต่ให้ใส่หัวใจเข้าไปในการทำงาน ใส่หัวใจความเป็นแพทย์ รักษาความสามัคคีกับเพื่อร่วมงานทุกวิชาชีพและทุกหน้าที่ ให้ทำตัวให้มีคุณค่าเป็นแบบอย่างที่ดี และสิ่งที่ดีๆจะตามมาในภายหลัง

            และในเวลา ๑๐.๓๐น. น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดอบรมปฐมนิเทศ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ผู้ให้สัญญาฯ ของกระทรวงสาธารณสุขประจำปี ๒๕๕๖ ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ จำนวน ๒,๖๔๐ คน เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องความรู้ความเข้าใจภาระงานที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเดินทางไปปฏิบัติงาน ในวันที่ ๒ เม.ย. ๒๕๕๖

            น.พ.ประดิษฐ กล่าวว่าในปีนี้ มีแพทย์ทำงานชดใช้ทุนในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขแพทย์ ๑,๗๕๕ คน ในจำนวนนี้เป็นแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ๖๖๔ คนซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาการกระจายตัวและขาดแคลนในบางพื้นที่ทำให้ต้องดูแลประชากรมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ควรจะเป็น มีแพทย์ลาออกจากระบบ เช่น ลาศึกษาต่อ โอนสังกัดหน่วยงานอื่น ประกอบภารกิจส่วนตัว เฉลี่ยปีละ ๖๐๐ คน โดยแพทย์ใหม่ทุกคนในปีแรกจะต้องปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไปเป็นเวลา ๙ เดือน เพื่อฝึกปฏิบัติเพิ่มพูนทักษะเพิ่มเติม ภายใต้การดูแลของแพทย์รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ หลังจากนั้นจะต้องลงปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนจนครบ ๓ ปี จึงขอฝากให้มุ่งมั่นทำงานโดยยึดถือประชาชนเป็นหลัก ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระราชบิดา เป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพอนามัย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจและความเป็นอยู่ในสังคมของประชาชนตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เข้าถึงบริการสุขภาพครอบคลุมในทุกพื้นที่ ทุกระดับ ซึ่งได้รับบริการอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้ว่าต้องไปทำงานพื้นที่ห่างไกล นพ.ประดิษฐ์กล่าวปิดท้าย