ร่วมด้วยช่วยกันหยุดวิกฤติคอร์รัปชั่น

: 24 เม.ย. 56     : แพทยสภา


 

ร่วมด้วยช่วยกันหยุดวิกฤติคอร์รัปชั่น

          รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะสมัชชาปฏิรูป (คสป) และกำหนดให้คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปจัดสมัชชาปฏิรูประดับชาติอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเป็นเครื่องมือในการเชื่อมประสานให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างกว้างขวางบนฐานของปัญญาและ ความสมานฉันท์เพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย สำหรับการปฏิรูปประเทศไทยที่มีเป้าหมายร่วมในการสร้างความเป็นธรรม เพื่อลดเหลื่อมล้ำในสังคม

          ปีนี้ สมัชชาปฏิรูประดับชาติจะมีขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน 2556 ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ภายใต้ประเด็นหลัก (THEME) คือ “พลังพลเมืองปฏิรูปประเทศไทย” มีระเบียบวาระการประชุม 6 ระเบียบวาระ แต่ที่จะขอนำเสนอท่านผู้อ่านในวันนี้ ก็คือ ระเบียบวาระที่ 2 ว่าด้วยการปฏิรูประบบป้องกัน และปราบปรามเพื่อหยุดวิกฤตคอร์รัปชั่น เพิ่มภาพลักษณ์ความโปร่งใส

        ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ สถานการณ์ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพจนเข้าขั้นวิกฤต และ อาจนำไปสู่ความล่มสลายของประเทศไทย เฉพาะส่วนที่เป็นคดี ก็ปรากฏว่ามีสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานของปปช.จำนวนเพิ่มมากขึ้น  และยังไม่มีความหวังว่าจะจัดการปัญหาสะสมได้อย่างไร กล่าวคือระหว่างปี 2548-2550  ปปช. แถลงว่ามีคดีเหลือค้างเพิ่มจาก 4,975 คดี เป็น 11,578 คดี ซึ่งคิดเป็นอัตราพอกพูนประมาณ 1,650 คดีต่อปี

        พอถึงปี 2551 ก็มีการก่อตั้งและมอบหมายคดีตามภารกิจจาก ปปช.ให้ ปปท. 5,900 คดี เหลือไว้ทำเอง 5,650 คดี แต่ระหว่างปี 2552-2555 ปปช.กลับมีคดีเพิ่มขึ้นอีกเป็น 6,410 คดี และ 7,955 คดี ตามลำดับ คิดเป็นอัตราพอกพูนราว 311 คดี ต่อปี

        ภาพลักษณ์ คอร์รัปชั่นไทยในสายตาของชาวต่างชาติก็ย่ำแย่มาก คือ ตลอด 15 ปี ที่องค์กร Transparency International จัดทำภาพลักษณ์ คอร์รัปชั่น (CPI) เปรียบเทียบประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยคะแนนเต็ม 10 แล้ว ประเทศไทยมีคะแนนอยู่ระหว่าง 2.8-3.8 มาโดยตลอด เพื่อนบ้านเราเสียอีกที่แก้ภาพลักษณ์ได้ผลจริงจัง และชัดเจนเอย่างเช่น จีน, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

สมัชชาปฏิรูประดับชาติครั้งที่ 3 จึงมีมติ 5 ประการ คือ

   1.  ให้ใช้มาตรการภาษีอากรในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง

   2.  ให้ใช้พลังทางสังคมเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

   3.  ให้ปฏิรูประบบงานปราบปรามการทุจริตของชาติอย่างเร่งด่วน

   4.  ให้เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่ายงานรัฐ  เพื่อสังคมสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้โดยง่าย

   5.  ให้ปฏิรูปกระบวนการคัดสรรบุคคลผู้ที่จะเข้ามาใช้อำนาจรัฐทุกตำแหน่ง  ให้มีการโปร่งใสและตรวจสอบได้

 

 

ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมด้วยช่วยกันหยุดวิกฤติคอร์รัปชั่นเพื่อเป้องกันชาติล่มสลายครับ

ด้วยความปรารถนาดีจาก

พลตำรวจตรีนายแพทย์ชุมศักดิ์  พฤกษาพงษ์

อนุกรรมการจริยธรรมของแพทยสภา



Copyright © สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์โดยแพทยสภา ห้ามทำการลอกเลียน ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดนอกจากจะได้รับอนุญาต