แถลงข่าว สนับสนุนส่งกำลังใจให้ นักรบเสื้อขาวสู้ภัย COVID-19
: 18 มี.ค. 63 : แพทยสภา
แถลงข่าว สนับสนุนส่งกำลังใจให้ นักรบเสื้อขาวสู้ภัย COVID-19
วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 มีนาคม 2563 เวลา 15.00 น.
ณ ห้องประชุมสยามมกุฎราชกุมาร อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ปี
ศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาและผู้อำนวยการ สำนักงานแพทยสมาคม ต่อกรณีของ โรคระบาด COVID-19 จากเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นปัญหาของสาธารณสุข ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ในขณะนี้ ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการบริหารของแพทยสมาคม เนื่องจากเล็งเห็นว่า แพทย์ ผู้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ เป็นกลไกสำคัญ ในการต่อสู้กับโรคร้ายอันมีแนวโน้ม ที่จะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในสถานพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน จึงมีภาระงานที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังอยู่ในสถานะที่ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งมีโอกาสถึงแก่ชีวิตอย่างที่เห็นใน ต่างประเทศ
ขวัญและกำลังใจในยามนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการที่จะ เพิ่มพลัง เพิ่มความเข้มแข็ง ให้กับแพทย์ในด่านหน้าทั่วประเทศ และเป็นที่มาของ "โครงการซื้อประกันชีวิตให้แพทย์ทั่วประเทศ"
ในเบื้องต้น ได้รับความร่วมมือ จากบริษัทไทยประกันชีวิต และ AIS ซึ่งมีความเห็นตรงกันในหลักการ และกำลังจัดทำรายละเอียดของโครงการ โดยหวังให้เป็นส่วนหนึ่ง ในการ นำพาประชาชนผ่านวิกฤตการณ์ ร้ายแรงของชาติในครั้งนี้สำหรับความคืบหน้า เราจะได้นำเสนอ ในโอกาสต่อไป
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากรายงานสถานการณ์ของโรค COVID-19 ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นค่อนข้างเร็วจากที่เคยพบวันละ ต่ำกว่าห้าราย เป็นวันละสิบกว่าราย ซึ่งต่อมาจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นและจะเป็นภาระทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นจากงานประจำ
แพทย์และพยาบาลจะเป็นบุคลากรด่านหน้า ที่จะเข้ามาช่วยดูแลรักษาผู้ที่อยู่ภายใต้สังเกตการณ์ ผู้ป่วยติดเชื้อ รวมถึงผู้ป่วยหนักที่จะต้องช่วยกันรักษาอย่างสุดความสามารถในหออภิบาลในโรงพยาบาล
นอกจากจะต้องดูแลรักษาผู้ป่วยเหล่านี้แล้ว การดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อ COVID-19 แตกต่างจากการดูแลผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ตรงที่ว่า ต้องดูแลตนเองและผู้ป่วยรายอื่นมิให้เชื้อมาติดตนเองหรือแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นด้วย เท่ากับนำตนเองเข้ามาทำงานเพิ่มและเสี่ยงภัยเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นโดยแท้
แพทยสภาและแพทยสมาคมในฐานะที่เป็นองค์กรที่ดูแลแพทย์และเข้าใจพยาบาลที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับแพทย์ จึงเห็นว่า หากการที่แพทย์และพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยโรคนี้ แล้วตนเองต้องติดเชื้อและเจ็บป่วยรุนแรงจนถึงกับต้องเสียชีวิตซึ่งเป็นการสูญเสียคุณค่าอย่างมหาศาลในวงการวิชาชีพ เราจะเยียวยาให้ขวัญกำลังใจกันอย่างไรในด้านเศรษฐานะ
ผมในฐานะนายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ฯ ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งแก่บริษัทไทยประกันชีวิต เอไอเอส และ กสทช. ที่มาร่วมกันในโครงการที่จะสร้างขวัญกำลังใจแก่แพทย์ พยาบาลในการต่อสู้กับโรค COVID-19 ครั้งนี้
ศาสตราจารย์นายแพทย์ รณชัย คงสกนธ์ กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งแพทย์ พยาบาล วิชาชีพสุขภาพทุกวิชาชีพ ได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันต้องปฏิบัติงานภายใต้ความกดดัน ความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในการที่ต้องตรวจคัดกรอง ดูแลรักษาผู้ป่วย อีกทั้งมีความกดดันอีกมากจากสังคม ซึ่งผู้ป่วยมีความคาดหวังต่อบุคลากรทางการแพทย์ นำไปสู่การคุกคามต่อบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้เสียขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ขอรบกวนสื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนต่อการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ และเชิญชวนประชนชนช่วยกันส่งกำลังใจไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดๆที่สามารถทำได้ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ “แนวหน้า” ในการต่อสู้กับไวรัส Covid-19 ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อก้าวผ่านวิกฤตการณ์ COVID-19 ไปด้วยกัน
นายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ กล่าวว่า ศึกครั้งใหญ่หลวงมาก ข้าศึกประชิดคูเมือง ข้าศึกบางส่วนเข้าถึงใจกลางพระนครแล้ว แนวหน้าสู้ศึก COVID-19 ทั้งแพทย์พยาบาลต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตเพื่อนำความผาสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง ศูนย์สนับสนุนนักรบเสื้อขาวสู้ภัย COVID-19 จะประสานการสนับสนุนวัสดุปัจจัยเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพประสิทธิผลสูงสุด ทั้งแพทย์พยาบาลเกือบสามแสนคนต้องทำงานเสี่ยงภัยเพื่อคนไทยทุกคน ทางแพทยสภา แพทยสมาคมโดยการสนับสนุนของไทยประกันชีวิต กสทช ais true dtac ที่จะช่วยกันสนับสนุนเพื่อออกกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองแพทย์ 6 หมื่นคน และพยาบาลกว่า 2 แสน 2 หมื่นคนที่ส่วนหนึ่งที่จะเสี่ยงภัยเข้าดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ด้วย โดยถ้าทุนคุ้มครองท่านละ 5 ล้านบาทก็จะคิดเป็นทุนคุ้มครองทั้งหมดประมาณ 1.4 ล้าน ล้าน บาทเพื่อคุ้มครองแพทย์พยาบาลทุกท่านที่ปฏิบัติงานดูแลโรค COVID-19