แถลงข่าว “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณส...
: 25 เม.ย. 62 : แพทยสภา
มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ร่วมกับ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุข นักศึกษาหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 (ปธพ.7) และภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “หน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” ต่อเนื่องเป็นโครงการที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน ระดม 22 คลินิกแพทย์เฉพาะทาง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทันตแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร จากหลายสถาบันการแพทย์กว่า 500 คน พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ท้องถิ่นขาดแคลน ให้บริการตรวจรักษา-ผ่าตัด โดยไม่คิดมูลค่า ตั้งเป้าช่วยคนไข้ 10,000 ราย ในวันที่ ๑๐-12 พฤษภาคมนี้ ที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า และโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสภานายกพิเศษแพทยสภา กล่าวเปิดการแถลงข่าวว่า ในวาระพิเศษที่มีพิธีอันสำคัญยิ่ง เป็นที่ปลื้มปิติของปวงชนชาวไทย คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งเป็นโอกาสมหามงคลของประเทศในนามนายกพิเศษ แพทยสภา องค์กรซึ่งถือเป็นตัวแทนของแพทย์ไทยทุกคน รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้ ร่วมกับมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ขอพระราชทานพระราชานุญาต เพื่อจัด“โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562”โดยได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดโครงการต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน โดยงานหลักจะอยู่ระหว่างวันที่ ๑๐-12 พฤษภาคม 2562 ณ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า และ โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ เป็นประธานโครงการฯ ร่วมกับแพทยสภา และ กระทรวงสาธารณสุข
โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ นับเป็นการจัดหน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ระดับประเทศที่มี “แพทยสภา” เป็นแกนนำ โดยใช้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขและเครือข่ายของระบบสาธารณสุขโดยรอบบูรณาการกับทั้ง 5 กระทรวง บริหารจัดการโดยนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 เป็นงานจิตอาสาที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของแพทย์ทั้ง 4 เสาหลัก คือ ผู้บริหารแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ จากกระทรวงสาธารณสุข จากภาครัฐคือหน่วยงานแพทย์ 4 เหล่าทัพ และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งผู้บริหารแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน เพื่อแสดงพลังการรวมใจของบุคลากรทางการแพทย์และร่วมกับจิตอาสาภาครัฐและเอกชนทุกคน ผ่านการมีส่วนร่วมของหลายหน่วยงาน เพื่อมอบโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้กับชาวจังหวัดเพชรบุรีและใกล้เคียง เพื่อลดคิวของผู้ป่วยที่ต้องรอคอยยาวนาน ลดการเดินทางเข้าสู่โรงเรียนแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ ให้ได้รับบริการจบในขั้นตอนเดียวในพื้นที่ โดยการนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกไปรักษา ซึ่งได้ออกหน่วยเป็นประจำทุกปี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องขอขอบคุณจิตอาสาผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านที่เข้ามาร่วมรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และหวังว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด กับผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ เพื่อเป็นการร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้าในฐานะองค์กรร่วมกับแพทยสภาจัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ในเรื่องธรรมาภิบาลแก่ผู้บริหารสายแพทย์และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง ของภาครัฐและเอกชน โดยนำ “ธรรมาภิบาล” ไปสู่การปฏิบัติจริงในการแก้ปัญหาด้านการแพทย์ของประเทศ ผ่านงานวิจัย และการสร้างกิจกรรมจิตอาสา “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562” เป็นหนึ่งในกิจกรรมการเรียนในหลักสูตร และเป็นการแสดงพลังจิตอาสาของนักศึกษาร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงการรักษาให้กับคนในท้องถิ่น ซึ่งทางสถาบันพระปกเกล้ายินดีสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง และร่วมเป็นเจ้าภาพทุกปี ซึ่งนับเป็นกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับทางสถาบันเป็นอย่างมาก งานแพทย์อาสาครั้งนี้ สถาบันพระปกเกล้า ขอเชิญชวนให้ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันในทุกๆหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า ที่สนใจมาร่วมกันเป็นจิตอาสา เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย ในโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วาระพิเศษอันเป็นที่ปลื้มปิติของปวงชนชาวไทยทุกคน ท่านที่สนใจติดต่อขอรายละเอียดได้ที่สถาบันพระปกเกล้า
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า ในวาระสำคัญ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งพระองค์ทรงคำนึงถึงสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรไทยเป็นอย่างมาก แพทยสภาจึงร่วมกับ มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สถาบันพระปกเกล้า และกระทรวงสาธารณสุขจัดกิจกรรมจิตอาสาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 (ปธพ.7) โดยจะออกหน่วยแพทย์อาสา ตรวจรักษาประชาชนผู้เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปจนถึงโรคซับซ้อนขั้นสูง ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 10- 12 พฤษภาคม โดยโครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องจาก “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ” ซึ่งจัดครั้งแรก ปี ๒๕๖๐ ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ดูแลผู้ป่วย ๑๔,๕๑๐ ราย ครั้งที่ ๒ นี้ได้รับพระมหากรุณาพระราชทานพระราชานุญาต ให้จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม 2561 ใน ๓ โรงพยาบาลคือ โรงพยาบาลอานันทมหิดล, โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช, โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ดูแลคนไข้ ๑๖,๕๐๖ ราย ครั้งนี้ตั้งเป้าดูแลผู้ป่วย ๑๐,๐๐๐ ราย
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) ของแพทยสภา ที่มีต้นกำเนิดมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานต่อวงการแพทย์ว่าให้แพทย์ “อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร” นำมาสู่แนวคิดจัดโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยได้ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้านำ “ธรรมาภิบาล” มาเป็นหลักในการสร้างหลักสูตร และสร้างกิจกรรมแพทย์อาสาให้บรรลุตามแนวทางพระราชดำรัสดังกล่าว
ทั้งนี้แพทยสภาประกอบไปด้วยแพทย์ ๖๐,๐๐๐ คน ๘๕ สาขาความเชี่ยวชาญ ภายใต้ 15 ราชวิทยาลัย-วิทยาลัยแพทย์ ซึ่งล้วนส่งแพทย์เฉพาะทางเข้าร่วมสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่องมาตลอด 7 ปี โดยจะเป็นการรักษาในระดับตติยภูมิหรือเป็นการรักษาโรคที่ซับซ้อน ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดแคลนสำหรับประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดมีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์ไปแล้ว 54,872 ราย
แพทยสภาขอขอบคุณแพทย์เฉพาะทางและองค์จิตอาสาทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ และขอเชิญชวนประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรีและโดยรอบตรวจสอบการให้การรักษาพยาบาลและนัดหมายเข้าโครงการที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ดังรายนามคลินิกที่จะกล่าวต่อไปโดยท่านนักศึกษา
พลตำรวจตรี พญ. พรเพ็ญ บุนนาค ประธานดำเนินงานโครงการแพทย์อาสาฯ ปธพ. 7 กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ ๗ (ปธพ.7) มีความปลื้มปิติที่จะได้จัดโครงการในโอกาสสำคัญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระพระราชพิธีบรมราชาภิเษกต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๑๐- 12 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า และจัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางขึ้นเป็นพิเศษที่โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี
โครงการได้จัดคลินิกตรวจโรค 22 คลินิกแพทย์เฉพาะทาง โดยมีแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล และ เภสัชกร เข้าร่วมกว่า 500 คน จากหลายสังกัดโรงพยาบาล อาทิ รพ.ศิริราช รพ.จุฬา รพ.รามา รพ.ราชวิถี รพ.ตำรวจ รพ.ภูมิพล รพ.เอกชนชั้นนำ ตลอดจนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก 15 ราชวิทยาลัยแพทย์ของแพทยสภา จะมาตรวจรักษาให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่โดยรอบ โดยการจองนัดหมายล่วงหน้า แบ่งการให้บริการเป็น 4 ด้าน ได้แก่
1. การตรวจคัดกรองโรคต่างๆ เช่นการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจเอกซเรย์ ตรวจวินิจฉัยลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ ตรวจคัดกรองภาวะเบาหวานที่จอตาและต้อหิน
2. การรักษาพยาบาลโดยแพทย์เฉพาะทาง ได้แก่ การผ่าตัดรักษาต้อกระจกและตรวจรักษาโรคตา การผ่าตัดสมอง การรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติกระดูกมือ เท้า ข้อเท้า หัวไหล่ ข้อศอก การรักษาโรคด้วยแพทย์แผนไทยและการนวดเพื่อสุขภาพแผนไทย การรักษาทางทันตกรรม เช่นถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด การแจกแว่นตาแก่ผู้สูงอายุ การมอบอุปกรณ์ขาเทียมแก่ผู้พิการ
3. การส่งเสริมสุขภาพประชาชน เช่น การทดสอบสมรรถภาพทางกายทั่วไป พร้อมการแนะนำและสาธิตการออกกำลังกาย การให้ความรู้และคำปรึกษาเพื่อรักษาและป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในห้องหัวใจ ที่อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้เกิดเป็นอัมพฤกษ์และอัมพาต
4.การสนับสนุนบริการสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย และ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร กิจกรรมทั้งหมดนี้ คาดว่าจะสามารถตรวจรักษาผู้รับบริการได้มากกว่า 10,000 ราย นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นประโยชน์กับวงการแพทย์ที่ทำให้ทุกภาคส่วนสัมผัสการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และยังเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นรากฐานที่แข็งแรง ในการส่งต่อแนวคิดนี้ในวงกว้างระดับประเทศต่อไป
สนใจสอบถามและจองนัดหมายล่วงหน้าได้โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี
ด้านนางสิริเกศ จิรกิติ ประธานกิจกรรมหน่วยสนับสนุนแพทย์อาสาฯ กล่าวว่า กิจกรรมจิตอาสาในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีของชาวจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้รับการดูแลสุขภาพจากแพทย์เฉพาะทาง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรักษายังศูนย์การแพทย์ใหญ่ในกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นการผนึกกำลังของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงออกถึงสัญญาณแห่งความรัก ความสามัคคี และพลังของจิตอาสาในกลุ่มคนไทยทุกหมู่คณะ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ด้วยการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ยกระดับการดูแลสุขภาพในภาพรวมให้แก่ประชาชนที่ด้อยโอกาส โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ ให้ผู้รับบริการทุกคนกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้ม และได้รับการบริการที่จำเป็นอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ทั้งนี้ภายในโครงการยังมีกิจกรรมจิตอาสาจากหลายองค์กรเข้ามาร่วม อาทิ กลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด ธนาคารออมสิน เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ เป็นต้น โครงการฯ ยังมีกิจกรรมจากหน่วยสนับสนุนอีกมาก ที่ร่วมใจมอบให้กับประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้ง กิจกรรมบนเวที ของที่ระลึก และบูธให้ความรู้ต่างๆ กิจกรรมมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ แจกแว่นตา มอบเครื่องกีฬาให้โรงเรียน และทุนการศึกษานักเรียนที่ขาดแคลน นอกจากนี้ยังมีจุดบริการอาหารเครื่องดื่มแก่ประชาชน และการขายสินค้าราคาถูกจากร้านธงฟ้าเป็นต้น โดยคณะนักศึกษาหลักสูตร ปธพ. 7 สายสนับสนุนงานแพทย์ ซึ่งประกอบไปด้วยผู้บริหารระดับสูงที่เป็นข้าราชการ สังกัดกระทรวงต่างๆ และภาคเอกชนจากหลากหลายสาขาอาชีพ
คณะนักศึกษา ปธพ.7 ขอขอบคุณทุกหน่วยราชการในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ทุกโรงพยาบาล ทหาร ตำรวจ เทศบาล คณะสื่อมวลชน ตลอดจนบริษัท ห้างร้าน และภาคประชาสังคม ต่างร่วมผนึกกำลังกัน อำนวยความสะดวก และร่วมสื่อสารให้แก่ประชาชนได้รับทราบถึงกิจกรรมนี้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า หมายเลข 03 270 9988
พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และผู้อำนวยการหลักสูตรฯ แถลงว่า การจัด “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” ในครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษอันสำคัญยิ่งที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต หลังจากที่มูลนิธิได้ออกหน่วยแพทย์อาสาใน “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ครั้งที่ ๑ และ ครั้งที่ ๒ ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมา ๒ ปี ติดกันดูแลผู้ป่วยกว่า สามหมื่นคนไปแล้ว โครงการนี้จึงเป็นการออกหน่วยครั้งที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน และครั้งที่ ๗ ของหลักสูตร
การออกหน่วยแพทย์อาสาดังกล่าวเป็นกิจกรรมหลักของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ฯ ที่มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับหลายหน่วยงาน มีการดำเนินการติดต่อกันมาทุกปี โดยหมุนเวียนออกหน่วยไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงการรักษา ในระดับตติยภูมิให้กับประชาชนในต่างจังหวัด ดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคซับซ้อนที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนต้องเดินทางไกลเข้ากรุงเทพฯ เพื่อรอคอยคิวพบแพทย์ยาวนาน โครงการนี้จึงตั้งเป้าหมายให้คิวการรอรักษาโรคยากให้เหลือเป็นศูนย์ โดยเริ่มจากการสำรวจ คัดกรอง ผู้ป่วยในพื้นที่ เพื่อหาผู้ป่วยที่ตกค้าง และส่งทีมแพทย์เข้าไปให้การรักษา
โครงการนี้ยังเป็นการซ้อมจัดโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ที่มีความร่วมมือจากแพทย์ทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมพร้อมกรณีเกิดความจำเป็นในอนาคต เช่น การเกิดภัยพิบัติ ตลอดจนเป็นการถ่ายทอดความรู้จากราชวิทยาลัยฯ โดยแพทย์เฉพาะทางไปยังโรงพยาบาลในต่างจังหวัดโดยตรง การให้ความรู้กับ อสม. พระสงฆ์ จิตอาสา ในการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) เป็นข้ามร่วมมือข้ามกระทรวงและสังกัด
สำหรับการจัดโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ โดยหลักสูตร ปธพ.ในอดีตที่ผ่านมาทั้ง ๖ ครั้งนั้น ได้ให้การรักษาคนไข้ในระดับตติยภูมิไปแล้วราว 54,000 ราย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา และ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี และโรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
สำหรับประชาชนในจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นคนไข้โรคเฉพาะทาง ทั้ง ๒๒ สาขา สามารถติดต่อขอเข้ารับการรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใน “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” ที่จะจัดขึ้นในวัน ๑๐-๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี โดยติดต่อขอทราบรายละเอียด และลงทะเบียนล่วงหน้าได้ ที่หมายเลข 03 270 9988 ในวันและเวลาราชการ