แพทยสภาแถลงข่าวกรณี จริยธรรมและการทำวิจัยในคนด้านเซลล์ต้นกำเนิด...
: 04 ส.ค. 58 : ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แพทย์สภา
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา และประธานคณะอนุกรรมการวิชาการและจริยธรรมการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาและการทำวิจัยในคน ด้านเซลล์ต้นกำเนิดของแพทยสภา ได้ให้ข้อมูลในการแถลงข่าวกรณี“จริยธรรมและการทำวิจัยในคนด้านเซลล์ต้นกำเนิด” ดังนี้
เทคโนโลยีการรักษาด้วยเซลล์บำบัดสมัยใหม่ที่ถูกต้องได้มาตรฐานเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกที่ประเทศ สหรัฐ จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพในปลายศตวรรษที่ 20 หรือ ประมาณ 30 -40 ปีก่อน โดยแพทย์สหรัฐนำเนื้อเยื่อบางส่วนของผู้ป่วยหรือผู้บริจาค มาสกัดแยกเซลล์หรือสเต็มเซลล์ของมนุษย์ชนิดต่างๆ ทำการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน หรือดัดแปลงคุณสมบัติบางอย่าง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคตามองค์ความรู้ใหม่ด้านเซลล์ชีวิวิทยาที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วในปลายศตวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการใช้ ยา หรือ เครื่องมือแพทย์ รักษาโรค
แพทยสภาควบคุมการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาเป็นหลัก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะควบคุมเฉพาะกระบวนการสกัดแยกเซลล์
คณะอนุกรรมการวิชาการและจริยธรรมการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาและการทำวิจัยในคนด้านเซลล์ต้นกำเนิดของแพทยสภาได้พิจารณาไปแล้ว 28 เรื่องโครงการที่รับรอง
1) เป็นโครงการที่ดำเนินมาก่อนที่จะมีข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรม เรื่อง การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษา พ.ศ. 2552
2) โครงการวิจัยก็ได้รับการพิจารณาและรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ และคณะอนุกรรมการเรื่องที่ไม่พิจารณารับรองโดยคณะอนุกรรมการ
เรื่องโฆษณาเกินความจริง
1) การเก็บเซลล์อ้างว่าใช้เครื่องมือทันสมัยที่สุดและสามารถเก็บไว้ได้ตลอดชีวิต
2) รักษาด้วยวิธีอื่น แต่อ้างว่าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อเรียกลูกค้า
3) การรักษา
4)โฆษณาว่ามีแพทย์ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมงในระยะนี้หากประชาชนที่มีความประสงค์จะรักษาด้วยเทคโนโลยีเซลล์บำบัดทางการแพทย์ โรคที่สามารถใช้สเต็มเซลล์รักษานั้นจะเป็นเพียงโรคเลือดเท่านั้น ส่วนโรคอื่นยังอยู่ระหว่างการวิจัย และผู้ป่วยที่สิ้นหวังมักจะตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาเกินจริง สิ่งที่แพทยสภาเป็นห่วงคือ การโฆษณาเกินความเป็นจริง และการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีการรักษาแบบเซลล์บำบัดที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล