แถลงข่าว
กระทรวงสาธารณสุขและภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ ร่วมกันประกาศสิทธิของผู้ป่วยและข้อพึงปฏิบัติสาหรับผู้ป่วย
กระทรวงสาธารณสุขและภาคี สภาวิชาชีพด้านสุขภาพ ผนึกกำลัง ร่วมกันพิทักษ์สิทธิและออกข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้ป่วย เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในการรับการรักษาพยาบาล เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข อ.เมือง จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา พร้อมด้วย ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล รองศาสตราจารย์พิเศษ ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม ทันตแพทย์ธรณินทร์ จรัสจรุงเกียรติ นายกทันตแพทยสภา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กานดา ชัยภิญโญ นายกสภากายภาพบำบัด รองศาสตราจารย์ ทนพ.สมชาย วิริยะยุทธกร นายกสภาเทคนิคการแพทย์ ได้ร่วมกันแถลงถึงการประกาศใช้ “คำประกาศสิทธิและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย” เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในการรับการรักษาพยาบาล
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา แถลงว่าเนื่องจากแพทยสภาและภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ และคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ ได้ประกาศใช้สิทธิของผู้ป่วย ตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ทางภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพเห็นว่า หลังจากที่ประกาศใช้มานานถึง 17 ปีแล้ว บริบทของสังคม วัฒนธรรม ตลอดจนความก้าวหน้าทางการแพทย์เปลี่ยนแปลงไปมาก และมีความเป็นสากลเพิ่มมากขึ้น จึงเห็นควรต้องออกประกาศเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ในเรื่องสิทธิชัดเจนขึ้นและที่สำคัญประชาชาชนยังต้องมีหน้าที่ ที่จะต้องรับผิดชอบด้วย ดังนี้เครือข่ายภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพ จึงได้ร่วมกันประกาศ “คำประกาศสิทธิและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย” ว่าในเวลานี้เราได้มีประกาศและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วยฉบับใหม่ประกาศฉบับเก่ายกเลิก ที่ผ่านมาประกาศถึงแต่สิทธิของผู้ป่วยเท่านั้นแต่ไม่ได้บอกหน้าที่ของผู้ป่วยว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยในต่างประเทศที่ประกาศสิทธิของผู้ป่วยแล้วยังประกาศหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ป่วยควบคู่กันอีกด้วย
ประกาศฉบับนี้ทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจว่าบุคลากรทางด้านสุขภาพไม่ว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด ไม่สามารถแก้ปัญหาสุขภาพได้ทุกอย่าง บางครั้งมีข้อจำกัดด้านเครื่องมือ บุคลากร เทคโนโลยี หรือผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการไม่มีอะไรที่ 100 % ผู้ป่วยมีสิทธิที่เลือกไปรักษาที่ไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามสิทธิของตนเองที่มีอยู่ ไม่ใช่เป็นการบังคับแต่เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะทำการรักษา เช่นก่อนที่ผู้ป่วยจะเซ็นหนังสือยินยอมนั้น ต้องอ่านให้รอบคอบและทำความเข้าใจก่อนเซ็น จะบอกว่าไม่รู้แล้วเซ็นอย่างนี้ไม่ได้ หรืออย่างเช่น บุคลากรทางด้านสุขภาพแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติแต่ผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำแล้วต่อมาผู้ป่วยเสียชีวิตตรงนี้อาจไม่สามารถมาเรียกร้องค่าเสียหายได้ เพราะผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามที่แนะนำไปเป็นต้น จึงเป็นหน้าที่ที่ผู้ป่วยต้องร่วมมือกับบุคลากรทางด้านสุขภาพในการดูแลรักษาสุขภาพตนเองหลังจากประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ในนามของภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพมีความมั่นใจว่าประกาศฉบับใหม่นี้จะทำให้บุคลากรทางด้านสุขภาพกับผู้ป่วยมีเข้าใจอันดีต่อกัน ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจ ปฏิบัติตามประกาศ รู้หน้าที่ของตนเองว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ผู้ป่วยมีส่วนร่วมและช่วยกันในการรักษาพยาบาลช่วยดูแลตนเอง มีความเข้าใจที่ดีต่อกัน ปัญหาความไม่เข้าใจต่างๆก็จะหมดไป
โดยหลังจากนี้จะแจกประกาศฉบับนี้ออกไปทั่วประเทศ ติดประกาศที่สถานพยาบาลทุกแห่ง ทุกคลินิกและโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทุกแห่ง เพื่อให้ประชาชนรับทราบต่อไป
คำประกาศ "สิทธิ" และ "ข้อพึงปฏิบัติ" ของผู้ป่วยฉบับใหม่ ออกโดย ๖ สภาวิชาชีพ ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘
